รองช้ำ (Plantar Fasciitis)

โรครองช้ำ (Plantar Fasciitis) เป็นหนึ่งในสาเหตุของอาการปวดส้นเท้าเรื้อรังยอดฮิต มักปวดบริเวณส้นเท้าหรือฝ่าเท้า เกิดจากพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบหรือเสื่อมสภาพ
ในบทความนี้ เราจะกล่าวถึงสาเหตุ อาการ ปัจจัยเสี่ยง การรักษา วิธีการป้องกันและการดูแลตัวเอง และแนวทางการรักษาทางกายภาพบำบัดกัน…
รองช้ำ คืออะไร
โรครองช้ำ เป็นภาวะการอักเสบหรือความเสื่อมสภาพของพังผืดใต้ฝ่าเท้า (Plantar Fascia) ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของอาการปวดส้นเท้าเรื้อรังที่พบบ่อย โดยอาการที่พบบ่อย คือ ปวดที่บริเวณส้นเท้า โดยเฉพาะหลังตื่นนอน หลังยืนหรือเดินติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือ เมื่อกลับมาใช้งานเท้าหนักๆ แบ่งออกเป็น ระยะเฉียบพลันและระยะเรื้อรัง
ระยะเฉียบพลัน เป็นการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นใหม่ เนื่องจากใช้งานหนักเกินไปในระยะเวลาอันสั้น เช่น เดินป่า ฯลฯ ทำให้เกิดการฉีกขาดเล็กๆ ของเนื้อเยื่อ
สามารถรักษาด้วยการพัก และประคบเย็น (Cold compress)
- Acute phase (72 ชั่วโมงแรก) จะมีอาการ ปวด บวม แดง ร้อน ชัดเจน มีอาการอักเสบ
- Sub-acute phase (72 ชั่วโมงแรก – 6 สัปดาห์) ระดับอาการปวดจะลดลง ไม่เท่ากับช่วงแรก
ระยะเรื้อรัง (Chronic phase) มีอาการปวดนานกว่า 6 สัปดาห์ พังผืดใต้ฝ่าเท้าจะเริ่มเสื่อมสภาพและหนาตัว (Fasciosis) ทำให้ตึง หนา และสูญเสียความยืดหยุ่น จึงมักมีอาการปวดจี๊ดตอนก้าวแรกหลังตื่นนอน เนื่องจาก พังผืดใต้ฝ่าเท้าถูกยืดออกอย่างรวดเร็ว
สามารถรักษาด้วยกายภาพบำบัด ประคบร้อน (Heat compress) และการยืดกล้ามเนื้อน่องและฝ่าเท้าอย่างสม่ำเสมอ
แต่ส่วนใหญ่ ผู้ป่วยมักมีอาการสะสมเป็นระยะเวลานาน เช่น ปวดตึงฝ่าเท้า หรือส้นเท้ามาก่อน แต่มีปัจจัยบางอย่างมากระตุ้นให้อาการกำเริบ (Acute on chronic) จนส่งผลกระทบกับการทำกิจกรรมต่างๆ

Anatomy

พังผืดใต้ฝ่าเท้า (Plantar Fascia) เป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่หนา แข็งแรง และทนทานมาก วางตัวเป็นแนวยาวตามฝ่าเท้า ตั้งแต่บริเวณกระดูกส้นเท้า ไปจนถึงบริเวณกระดูกนิ้วเท้า เป็นโครงสร้างที่ช่วยพยุงอุ้งเท้า และรองรับแรงกระทำที่เกิดขึ้นบริเวณฝ่าเท้า จากน้ำหนักตัวและกิจกรรมต่างๆ เช่น การยืน เดิน วิ่ง กระโดด เป็นต้น รวมถึง ทำหน้าที่ควบคุมรูปแบบและเสถียรภาพในการเดินหรือวิ่งอีกด้วย
นอกจากนี้ พังผืดใต้ฝ่าเท้ายังเชื่อมต่อและทำงานร่วมกับเอ็นร้อยหวายและกล้ามเนื้อน่อง เพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวข้อเท้า หากส่วนใดส่วนหนึ่งเกิดอาการบาดเจ็บหรือมีความตึงตัวผิดปกติ มักจะส่งผลกระทบไปยังส่วนอื่นด้วย
สาเหตุ
สาเหตุของภาวะพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบ มักเกิดจาก
- Overuse injury เกิดจากการใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน หรือมีแรงกระแทกซ้ำๆ เช่น การยืน การเดิน การวิ่ง หรือการกระโดด ติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้เกิดการฉีกขาดเล็กๆ บริเวณเนื้อเยื่อ ส่งผลให้เกิดอาการอักเสบ และปวดฝ่าเท้าตามมา โดยส่วนมากมักพบบริเวณจุดเกาะกระดูกส้นเท้า
- น้ำหนักตัวที่มากเกินไป จะส่งผลให้พังผืดใต้ฝ่าเท้ารับแรงกระทำมากกว่าปกติ เพิ่มความตึงและโอกาสการบาดเจ็บ
- ลักษณะโครงสร้างของเท้าและฝ่าเท้าที่ผิดปกติ (Deformity of foot) ก็มีผลทำให้เกิดแรงกระทำที่สูงบริเวณพังผืดใต้ฝ่าเท้า และโครงสร้างโดยรอบ เช่น
- ฝ่าเท้าแบน (Flat foot) ขณะลงน้ำหนัก พังผืดใต้ฝ่าเท้าจะถูกยืดตึงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บที่จุดเกาะ
- อุ้งเท้าสูง (High arch of foot) จะทำให้ความสามารถในการรับแรงกระทำลดลง ไม่มีการกระจายแรงอย่างเหมาะสม ทำให้พังผืดใต้ฝ่าเท้า รับแรงกระทำมากกว่าปกติ
- ฯลฯ
- การสวมใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม กับลักษณะเท้าของผู้สวมใส่ เช่น รองเท้าส้นสูง รองเท้าพื้นแข็ง รองเท้าที่ไม่ซัพพอร์ตอุ้งเท้า จะส่งผลให้พังผืดใต้ฝ่าเท้ามีความตึงตัวและทำงานหนักกว่าปกติ
- ความตึงตัวของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากกล้ามเนื้อน่อง เอ็นร้อยหวาย และพังผืดใต้ฝ่าเท้า มีจุดเกาะอยู่บริเวณกระดูกส้นเท้า และทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความมั่นคงและประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหวของข้อเท้า
เมื่อกล้ามเนื้อน่องหรือเอ็นร้อยหวายตึงตัว จะส่งผลให้ข้อเท้าไม่สามารถกระดกได้เต็มที่ (full range of motion) จึงเกิดแรงดึงบริเวณกระดูกส้นเท้าและพังผืดใต้ฝ่าเท้าในที่สุด
หากเกิดอาการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อบริเวณนี้ จะส่งผลให้เกิดอาการปวดบริเวณฝ่าเท้าหรือส้นเท้า การรับน้ำหนักหรือแรงกระทำบริเวณฝ่าเท้าผิดปกติไป ทำให้โครงสร้างส่วนอื่นต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อชดเชยการรับแรงดังกล่าว เช่น เข่า สะโพก หลัง ฯลฯ และอาจจะมีอาการปวดตามมา

อาการ

อาการปวดที่เกิดขึ้นในแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆที่จะส่งผลกระทบ เช่น ลักษณะการใช้งานในกิจกรรมต่างๆ ระยะเวลาของการทำกิจกรรม ความหนัก-เบาของการใช้งาน ลักษณะโครงสร้างของเท้าแต่ละบุคคล น้ำหนักตัว รวมถึง ภาวะทางสุขภาพ โดยมีอาการหลักๆ ดังต่อไปนี้
- ปวดเมื่อยืนหรือเดิน ติดต่อกันเป็นเวลานาน
- ปวดหลังการใช้งานหนัก เช่น วิ่ง กระโดด ฯลฯ
- ปวดจี๊ดที่ส้นเท้าขณะเดินครั้งแรกในตอนเช้า หลังตื่นนอน
- อาการดีขึ้นเมื่อได้พัก แต่จะกลับมาปวดใหม่ เมื่อมีการใช้งาน
ปัจจัยเสี่ยง
- อายุ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิด ความเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อ เนื่องจากกล้ามเนื้อและพังผืดสูญเสียความยืดหยุ่นและความทนทาน ส่งผลให้ความสามารถในการรับแรงดึงและแรงกระแทกได้น้อยลง
- น้ำหนักตัว น้ำหนักตัวที่มากเกินไปจะส่งแรงกระทำ ต่อพังผืดใต้ฝ่าเท้ามากกว่าปกติ ทำให้มีโอกาสเกิด อาการพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบมากขึ้น
- อาชีพ อาชีพที่ต้องยืนหรือเดิน ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ในแต่ละวัน เช่น พนักงานโรงงาน อาจารย์ ฯลฯ จะมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป
- การออกกำลังกายอย่างหนัก กีฬาบางชนิด ส้นเท้าต้องรองรับแรงกระแทกอยู่ตลอดเวลา เช่น การวิ่ง บาสเกตบอล ฯลฯ จะมีความเสี่ยงสูงกว่าการออกกำลังกายชนิดอื่นๆ
- โครงสร้างเท้าที่ผิดปกติ เช่น เท้าแบน อุ้งเท้าสูง และข้อเท้าผิดรูป ฯลฯ จะทำให้การลงน้ำหนักผิดปกติ ส่งผลให้พังผืดใต้ฝ่าเท้ารับแรงกระทำมากขึ้น

การรักษา

รองช้ำ รักษาด้วยวิธีไหนได้บ้าง
- การพัก หลีกเลี่ยงการใช้งานหรือกิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวด
- พบแพทย์ แพทย์จะประเมินตามอาการและรักษา ตามระดับความรุนแรงของคนไข้ จากน้อยไปมากตามลำดับ ตั้งแต่การให้ยา เช่น ยาลดปวด ยาแก้อักเสบ สเตียรอยด์ ฯลฯ ไปจนถึงการเข้ารับการผ่าตัด
- ประคบเย็น เพื่อลดอาการปวด และอักเสบในระยะเฉียบพลัน ที่มีอาการ ปวด บวม แดง ร้อนชัดเจน และประคบอุ่น เพื่อลดความตึงตัวและเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและพังผืดในระยะเรื้อรัง ที่มีอาการปวดและความสามารถในการใช้งานลดลง
- การใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น แผ่นรองฝ่าเท้าที่มี Arch Support จะช่วยรองรับอุ้งเท้า ลดแรงตึงต่อพังผืด ดูดซับแรงกระแทกที่เกิดจากน้ำหนักตัว การใช้งานหรือกิจกรรมต่างๆ
หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม จะส่งผลให้เกิดอาการอักเสบเรื้อรัง รวมถึง ส่วนอื่นของร่างกายต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อชดเชยการลงน้ำหนักที่ผิดปกติ จึงทำให้มีโอกาสที่จะเกิดอาการปวดอย่างอื่นตามมา เช่น เอ็นร้อยหวายอักเสบ ปวดเข่า ปวดสะโพก ปวดหลัง ฯลฯ ซึ่งจะรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน และอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตในที่สุด
กายภาพบำบัด
แนวทางการรักษาทางกายภาพบำบัดในผู้ที่มีอาการพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบ จะขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรง โดยส่วนมาก จะรักษาเพื่อลดอาการอักเสบบริเวณฝ่าเท้า และเพิ่มความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อโดยรอบ โดยใช้เครื่องมือทางกายภาพฯ และเทคนิคต่างๆ ดังนี้
- Assessment เป็นการตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด เช่น ท่าทางการเดินที่ผิดปกติ เท้าแบน กล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ
- Manual Therapy เป็นเทคนิคในการรักษาด้วยมือ ช่วยลดความตึงตัวของพังผืดและกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้อง เพิ่มการไหลเวียนโลหิต และลดอาการปวด
- Stretching เป็นการยืดกล้ามเนื้อส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น พังผืดใต้ฝ่าเท้า น่อง และเอ็นร้อยหวาย ฯลฯ
- Strengthening เป็นการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงและความทนทานของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้อง เช่น เท้า ข้อเท้า และขา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานและลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ
- Shockwave Therapy เป็นการใช้คลื่นกระแทกเพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ลดการตึงตัว และการอักเสบ ใช้ได้ผลดีในการรักษาอาการพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบเรื้อรัง
- Taping การติดเทปพยุง ช่วยลดแรงตึงต่อพังผืดใต้ฝ่าเท้า ช่วยจำกัดการเคลื่อนไหว ทำให้ข้อเท้ามีความมั่นคงมากขึ้น ฯลฯ
- การให้คำแนะนำในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การปรับท่าทางการเดินหรือวิ่ง รวมถึง การเลือกรองเท้าให้เหมาะสม สำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านโครงสร้างของเท้า

รองช้ำ กายภาพบำบัดช่วยได้จริงหรอ
การป้องกันและการดูแลตัวเอง

- เลือกรองเท้าที่มีพื้นรองรับแรงกระแทกได้ดี และมี arch support อุ้งเท้า
- หลีกเลี่ยงรองเท้าแตะพื้นบางและแบน รองเท้าส้นสูง
- ยืดกล้ามเนื้อน่องและฝ่าเท้าอย่างสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการยืนหรือเดินบนพื้นแข็ง นานเกินไป
- ควบคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม
- เมื่อเริ่มมีอาการ ให้ดูแลตัวเองตามหลัก R.I.C.E.
คำถามที่พบบ่อย
โรครองช้ำ หายเองได้ไหม?
สามารถหายเองได้ หากลดกิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดอาการอักเสบ รวมถึงการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เช่น การยืดกล้ามเนื้อน่องเป็นประจำ การควบคุมน้ำหนัก การเลือกรองเท้าที่มี arch support อุ้งเท้า ฯลฯ
การดูแลตัวเองที่ถูกต้อง จะทำให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ในเวลาไม่นาน
การใส่รองเท้าแตะ ส่งผลเสียอย่างไร?
รองเท้าแตะที่มีพื้นราบ บาง และไม่มีการรองรับส่วนอุ้งเท้า (arch support) จะทำให้พังผืดใต้ฝ่าเท้าต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อพยุงอุ้งเท้า และเพิ่มแรงตึงบริเวณจุดเกาะที่ส้นเท้า
ทำไมถึงปวดตอนเช้ามากที่สุด?
ในขณะที่เรานอนหลับพักผ่อน พังผืดใต้ฝ่าเท้าจะอยู่ในท่าที่หดสั้นลง เมื่อลงน้ำหนักก้าวแรกหลังตื่นนอน จะทำให้พังผืดใต้ฝ่าเท้าถูกยืดออกอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการดึงรั้ง และเกิดอาการปวดจี๊ดอย่างฉับพลัน แต่เมื่อเดินไปสักพัก อาการปวดจะลดลง เนื่องจากพังผืดใต้ฝ่าเท้าจะคลายตัวลง

Assessment

Ultrasound

Shockwave

Electrical Stimulation

Gun Massage

Joint Mobilization

Manual Traction

Stretching

Hot/Cold Compress

Exercises

Home Program

Posture Correction
นัดหมาย
085-9966-353Business Hours
วันเสาร์-อาทิตย์: 9.30 - 18.30 น.
Location
Parking
Business Hours
วันเสาร์-อาทิตย์: 9.30 - 18.30 น.
Location
Parking
ที่จอดรถ เลี้ยวเข้าซอย อยู่หัวมุม














































