• ไทย
  • English

คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ

“ปวดขากรรไกร เกี่ยวอะไรกับกายภาพบำบัด”

มาดูกันว่า Temporomandibular Disorders (TMD,TMJ) หรือภาวะความผิดปกติของขากรรไกร กายภาพบำบัดสามารถช่วยอะไรได้บ้าง…  

TMD/TMJ คืออะไร

Temporomandibular Disorders (TMD,TMJ) เป็นภาวะความผิดปกติของขากรรไกร ซึ่งเป็นข้อต่อที่เชื่อมระหว่างกะโหลกและกราม ทำหน้าที่ในการเคลื่อนไหวกราม เช่น การพูด การเคี้ยว

อาจจะเกิดจากหลายปัจจัย เช่น กรามอักเสบ พันธุกรรมหรือความเครียด ส่งผลกระทบโดยตรงกับ การเคลื่อนไหวของกราม ทำไห้คนไข้มีอาการปวด ไม่สามารถอ้าปากกว้างได้ ไม่สามารถเคี้ยวอาหารที่เหนียวหรือแข็ง เป็นระยะเวลานานได้ และส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันในที่สุด

ประวัติคนไข้

เป็นเคสผู้หญิงไทย อายุประมาณ 32 ปี ไม่มีโรคประจำตัว มาที่คลินิกกายภาพฯ เบรน รีแฮบ ด้วยอาการปวดบริเวณต้นคอด้านซ้ายร่วมกับหันศีรษะไปทางด้านซ้ายไม่ได้

มีอาการขากรรไกรซ้ายขัด มีเสียงคลิ๊กและค้างเป็นครั้งคราวร่วมด้วย แต่ไม่มีอาการปวด

จากการซักประวัติคนไข้ มีอาการปวดตึงบริเวณคอทั้งสองข้างมาประมาณ 2-3 เดือน

3 วันก่อนหน้าที่จะเข้ามาปรึกษาที่คลินิกครั้งแรก คนไข้นอนตะแคงซ้าย หลังจากตื่นขึ้นมา พบว่ามีอาการปวดบริเวณต้นคอด้านซ้ายมาก (Pain Score 7-8/10) ร่วมกับไม่สามารถหันศีรษะได้ โดยเฉพาะทางด้านซ้าย

ลักษณะการทำงานของคนไข้จะนั่งทำงานเป็นหลัก ใช้คอมพิวเตอร์ ประมาณ 6-8 ชม./วัน ร่วมกับการขับรถยนต์ประมาณ 2-3 ชม./วัน

ประวัติเพิ่มเติม

ประวัติเพิ่มเติม คนไข้จะมีปัญหาบริเวณขากรรไกรด้านซ้ายขัด มีเสียงคลิ๊ก ร่วมกับมีปัญหาเรื่องการอ้าปาก ถ้าอ้าปากกว้างๆ กรามจะค้าง

ส่วนการพูด จะไม่สามารถพูดคุยหรือสนทนาเป็นเวลานานได้ ไม่สามารถรับประทานอาหารที่ต้องใช้แรงในการเคี้ยวอาหารหรือใช้เวลาเคี้ยวอาหารนาน

รวมไปถึงเวลาที่พูดหรือขยับขากรรไกร จะมีเสียงคลิ๊ก และมีอาการมาประมาณ 6 เดือน

พบแพทย์ระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ

ผู้ป่วยเคยพบแพทย์ด้านระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ แพทย์ได้ให้ความเห็นว่า น่าจะเกิดจากความตึงตัวของกล้ามเนื้อ คอ บ่า ที่ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณขากรรไกรทำงานหนัก จึงเกิดอาการปวด และจำกัดการเคลื่อนไหวของขากรรไกร

แพทย์จึงแนะนำให้เข้ามาปรึกษานักกายภาพบำบัด เพื่อรักษาอาการดังกล่าว…

หลังเริ่มรักษา

หลังจากมาทำกายภาพบำบัดที่คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ ประมาณ 3 สัปดาห์ อาการบริเวณคอ-บ่า ของคนไข้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นมาก ทั้งในแง่อาการปวดที่ลดลงจนแทบไม่มี องศาการเคลื่อนไหวของศีรษะที่มากขึ้น สามารถหันหน้าไปทางด้านซ้ายได้ อาจมีความรู้สึกตึงบางช่วงของการเคลื่อนไหว แต่ก็ไม่มีอาการปวด

ทั้งนี้พออาการบริเวณคอ บ่าดีขึ้น แต่อาการบริเวณขากรรไกรด้านซ้าย กลับไม่ได้ดีขึ้นตาม

ทางคลินิกฯจึงได้ให้คำปรึกษากับคนไข้ถึงทางเลือกของแนวทางการรักษา

แต่อย่างไรก็ดี เราได้แนะนำให้คนไข้ไปพบทันตแพทย์เฉพาะทางด้านขากรรไกร เพื่อประเมินอาการให้ละเอียดอีกครั้ง

พบทันตแพทย์เฉพาะทาง

คนไข้ได้ไปพบทันตแพทย์เฉพาะทางด้านทันตกรรมบดเคี้ยว

ทางนักกายภาพบำบัดก็ได้มีโอกาสพูดคุยปรึกษากับคุณหมอด้วย ซึ่งคุณหมอให้ความเห็นไว้ว่า อาจจะเกิดจากกล้ามเนื้อที่มีหน้าที่ในการบดเคี้ยว (Masseter Muscle) มีอาการตึงตัว

ทำให้การเคลื่อนไหวของข้อต่อขากรรไกรด้านซ้ายเคลื่อนไหวได้น้อยลง คนไข้จึงเปิดปากได้น้อยและมีเสียงคลิ๊กเวลาเปิดปากและปิดปาก

คุณหมอก็ได้ให้ความเห็นและแนะนำให้ทางคลินิกฯ รักษาเคสนี้ต่อ โดยให้เน้นการลดความตึงตัวของกล้ามเนื้อ (Masseter muscle) และค่อยๆเพิ่มองศาการเคลื่อนไหวของข้อต่อขากรรไกร

ผลการรักษา

หลังจากคนไข้ไปพบทันตแพทย์เฉพาะทาง แล้วมารับการรักษาทางกายภาพบำบัดต่อเนื่อง

นอกจากจะรักษาอาการปวดคอ บ่าแล้ว เราได้รักษาอาการบริเวณขากรรไกรร่วมด้วย

การรักษาจะเน้นที่การคลายกล้ามเนื้อบริเวณขากรรไกร และขยับข้อต่อขากรรไกร (Mobilization) ให้มีองศาการเคลื่อนไหวมากขึ้น รวมถึง ให้คนไข้ออกกำลังกายกล้ามเนื้อบริเวณรอบๆขากรรไกร

หลังการรักษาไม่กี่ครั้ง คนไข้สามารถอ้าปากได้กว้างขึ้น

ผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ อาการปวดบริเวณกรามด้านซ้าย รวมถึงเสียงคลิ๊กเวลาขยับขากรรไกรลดลงไปมาก เมื่อเทียบกับก่อนมารักษาที่คลินิกฯ

อีกทั้งในแง่ของการใช้ชีวิตประจำวัน การทำกิจกรรม คนไข้สามารถพูดคุย สนทนาสื่อสารได้ต่อเนื่องนานขึ้น สามารถรับประทานอาหารได้หลากหลายมากขึ้น อาทิ การทานอาหารที่ต้องใช้แรงเคี้ยวสูง หรือต้องใช้องศาการอ้าปากเพื่อทานอาหารที่กว้างมากขึ้น เช่น แฮมเบอร์เกอร์ เป็นต้น

อาการล้าหรือปวดเวลาเคี้ยวอาหารนานๆ ก็ลดลงเช่นกัน

งานวิจัย

ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของคุณ Nagata, 2019 ได้มีการศึกษาคนที่มีปัญหาขากรรไกร โดยเฉพาะการเปิดปากหรืออ้าปากกว้างๆ พบว่าการรักษาคนไข้กลุ่มนี้ด้วยการเคลื่อนไหวข้อต่อขากรรไกร (Mobilization) และการออกกำลังกายรอบๆขากรรไกร จะทำให้อาการดีขึ้นทั้งในเรื่องของอาการปวด การเปิดปากที่กว้างขึ้น รวมถึงเสียงคลิ๊กบริเวณข้อต่อขากรรไกรลดลง

จากการรักษาและดูแลคนไข้ท่านนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทางคลินิกฯได้เห็นถึงพัฒนาการ การฟื้นตัว รวมถึงคุณภาพชีวิตของคนไข้ที่ดีขึ้นตามลำดับ ทั้งในแง่ของการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน

นอกจากการดูแลทางด้านร่างกายที่มีส่วนสำคัญแล้ว การเข้าถึงและเข้าใจในความรู้สึกของคนไข้นั้น ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทางคลินิกฯ เล็งเห็นถึงจุดนี้เช่นกัน

ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตของคลินิกเรา และหวังว่าเราจะได้มีโอกาสได้ดูแลสุขภาพของท่าน

คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ…

Reference : Kazuhiro Nagata, Satol Hori. Efficacy of mandibular manipulation technique for temporomandibular disorders patients with mouth opening limitation: a randomized controlled trial for comparison with improved multimodal therapy, 2019.

​Assessment

Ultrasound

​Shockwave

Electrical Stimulation

​Gun Massage

​Joint Mobilization

Manual Traction

​Stretching

​Hot/Cold Compress

Exercises

​Home Program

Posture Correction

คำถามที่พบบ่อย

กายภาพบำบัด เป็นศาสตร์ทางการแพทย์แผนปัจจุบัน ​ที่มุ่งเน้นการรักษา ส่งเสริม ป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวม เพื่อช่วยให้คุณภาพชีวิตของคนไข้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การบรรเทาอาการปวด การเพิ่มประสิทธิภาพการเคลื่อนไหว หรือการฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกาย จากอาการบาดเจ็บหรือโรคต่างๆ โดยไม่ต้องใช้ยาและหลีกเลี่ยงการผ่าตัด แบ่งขั้นตอนการรักษาออกเป็น 3 ขั้นตอนหลักๆ ดังนี้

Manual Techniques เป็นเทคนิคในการรักษาด้วยมือ ที่ได้รับการอบรมและฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เช่น การขยับข้อต่อ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อและกล้ามเนื้อ (Mobilization) การขยับ ดัด ดึงข้อต่อ (Manipulation) การดึงคอ-ดึงหลัง (Manual Traction) และการยืดกล้ามเนื้อ (Stretching)
Modalities เป็นการใช้เครื่องมือทางกายภาพฯ เพื่อช่วยลดปวดและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เช่น เครื่องช็อคเวฟ เครื่องอัลตราซาวด์ และเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า
Exercises หลังจากที่อาการปวดลดลงแล้ว​การออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ รวมถึงเพื่อป้องกันการบาดเจ็บซ้ำ ในกรณีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง จะเน้นการออกกำลังกายเฉพาะส่วนเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกาย เช่น ผู้ป่วยที่มีปัญหาในการเดิน จะเน้นฝึกกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวและกล้ามเนื้อส่วนล่างที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ 

กายภาพฯ จะช่วยให้คุณกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจ ลดปวด และใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ…

คนไข้สามารถติดต่อ ปรึกษาปัญ​หาเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง เรามีการติดตามอาการ ผลการรักษา ตลอดจนให้คำปรึกษาในการดูแลตนเองเบื้องต้น จนกว่าจะถึงนัดหมายครั้งถัดไป

นอกจากนี้ ทั้งสาขาอโศกและสาขานนทบุรี ยังมีที่จอดรถ เดินทางสะดวก อยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS หรือ MRT

นักกายภาพฯ ของเรามีประสบการณ์ทำงานไม่ต่ำกว่า 10 ปี ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า คนไข้จะได้รับการรักษาที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด

ไม่มี เราเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับอาการของคนไข้ เช่น การกระตุ้นไฟฟ้า ไม่ได้เหมาะสมกับการรักษาทุกเคส ดังนั้น เราจึงใช้เวลาเพื่อโฟกัสกับการรักษาที่ได้ผลที่สุด

1. ตรวจร่างกายอย่างละเอียด ด้วยประสบการณ์ของนักกายภาพฯ แต่ละท่านที่มากกว่า 10 ปี คุณจึงมั่นใจได้ว่า จะได้รับการตรวจวิเคราะห์ที่แม่นยำ ค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการรักษาทางกายภาพบำบัดที่มีประสิทธิภาพและตรงจุด

อาการปวดในตำแหน่งเดียวกัน อาจมีสาเหตุที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ประสบการณ์ของนักกายภาพฯ ที่คลินิก จะช่วยตรวจประเมิน วางแผนการรักษา และดำเนินการรักษาให้เหมาะสมกับอาการของคุณโดยเฉพาะ เพื่อให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างรวดเร็วและยั่งยืน

หากคนไข้มีอาการที่รุนแรง น่าสงสัย หรือได้รับอุบัติเหตุ เราจะแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น X-Ray, CT Scan และ MRI เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดยิ่งขึ้น ในทางกลับกัน หากมีผลการตรวจรังสีวินิจฉัยอยู่แล้ว สามารถนำมาใช้ประกอบการรักษา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาให้ดียิ่งขึ้น

ในบางกรณี นักกายภาพฯ ของเราจะทำงานร่วมกับแพทย์ในการวางแผนการรักษา และร่วมมือกับ Fitness Trainer ในการออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกาย เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจ และใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพสูงสุด

2. Manual Therapy นักกายภาพฯ ที่คลินิกของเรา ล้วนมีความเชี่ยวชาญด้าน Manual Therapy (หัตถบำบัด) ซึ่งเป็นเทคนิคสำคัญในการบรรเทาอาการอักเสบของจุด Trigger Point ซึ่งมักเป็นสาเหตุหลักของอาการปวดเรื้อรัง การรักษาประกอบด้วยหลายเทคนิค เช่น การยืดกล้ามเนื้อ (Stretching) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและลดอาการตึงตัว การขยับข้อต่อและเนื้อเยื่อโดยรอบ (Mobilization) เพื่อเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหว และการดึงคอ-หลัง (Manual Traction) เพื่อลดแรงกดทับต่อเส้นประสาท

เทคนิคเหล่านี้ถือเป็นแนวทางการรักษาหลักทางกายภาพฯ ของประเทศสหรัฐอเมริกาและได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทั่วโลก

3. เครื่องมือ คลินิกของเรายังนำเครื่องมือที่ทันสมัย (Modalities) เช่น เครื่องช็อคเวฟ (Shockwave) เครื่องอัลตราซาวด์ (Ultrasound) และเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า (Electrical Stimulation) มาประกอบการรักษา เพื่อช่วยคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการอักเสบ และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ฯลฯ

ทั้งนี้ นักกายภาพฯ จะเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับการรักษาของแต่ละอาการ เช่น ผู้ที่มีภาวะกระดูกเสื่อม ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องช็อคเวฟ (Shockwave) ในการรักษาบริเวณนั้นๆ เพื่อความปลอดภัย เป็นต้น

4. การออกกำลังกาย (Therapeutic Exercises) เป็นอีกหนึ่งในวิธีการรักษาหลักทางกายภาพฯ ในประเทศสหรัฐอเมริกา จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ให้มีความสมดุลกันทั้งสองฝั่ง ช่วยทำให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่น เพิ่มองศาการเคลื่อนไหว (Increase Range of Motion) และป้องกันอาการบาดเจ็บซ้ำๆที่จุดเดิม 

นอกจากนี้ ยังช่วยปรับท่าทางในการใช้ชีวิตประจำวัน (Posture Correction) ไม่ว่าจะเป็นท่านอน ท่านั่ง ท่ายืนและท่าเดิน ให้ถูกต้องตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomics) เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บในอนาคต

5. ให้ความรู้เกี่ยวกับตัวโรคและติดตามผลการรักษา เรามุ่งเน้นให้คนไข้มีความเข้าใจเกี่ยวกับรอยโรคหรือภาวะที่เป็นอยู่ เพื่อที่จะปฎิบัติตัวได้อย่างเหมาะสม และเพื่อหลี่กเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ นอกจากนี้ เรายังติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง ให้คำปรึกษา คำแนะนำ จนกว่ามั่นใจว่า คนไข้จะสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติอย่างมั่นใจ

สำหรับผู้ที่กำลังมองหา “คลินิกกายภาพบำบัด ใกล้ฉัน” ควรสอบถามแนวทางการรักษา เพื่อให้มั่นใจว่าแนวทางการรักษานั้นเหมาะสมกับตนเอง และอาการที่เป็น อีกทั้ง ควรเลือกคลินิกที่มีนักกายภาพฯ ที่มีประสบการณ์ และความสามารถในการตรวจร่างกายได้อย่างตรงจุด เพื่อการรักษาที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หายเร็ว หายขาด ปลอดภัย และไม่กลับมาเป็นซ้ำ ท่านสามารถปรึกษาอาการเบื้องต้นกับเรา ได้ทางโทรศัพท์หรือทาง LINE OA

ร่างกายของเรามีความสามารถในการซ่อมแซมตัวเองได้ แต่เนื่องจาก เราจำเป็นต้องเคลื่อนไหวหรือใช้งานตลอดเวลา ทำให้การซ่อมแซมตัวเองเป็นไปได้ยากมากขึ้น ​หากมีอาการปวดที่ไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน แนะนำให้เข้ามารักษาทางกายภาพฯ จะช่วยให้หายไวขึ้น อาการปวดจากการบาดเจ็บลดลง และป้องกันไม่ให้อาการเรื้อรัง

ขึ้นอยู่กับอาการ เช่น อาการเส้นเอ็นอักเสบจะใช้เวลารักษานานกว่ากล้ามเนื้ออักเสบ ส่วนโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ในบางกรณีสามารถรักษาเพื่อบรรเทาอาการปวด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะของโรค 

เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด ควรเข้ารับการรักษาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อความต่อเนื่องของการรักษาและช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้น 

แม้ว่าระดับความทนต่อความเจ็บปวดของแต่ละคนจะแตกต่างกัน แต่การเข้ารับการรักษาตั้งแต่เริ่มมีอาการ จะช่วยให้หายเร็วและไม่เรื้อรัง

การรักษาทางกายภาพฯ จำเป็นต้องใช้ความต่อเนื่องในการเข้ารับการรักษา เพื่อให้หายขาด และป้องกันไม่ให้อาการกลับมา เนื่องจากคลื่นไฟฟ้าที่ใช้ในการรักษา จะได้ผลเฉพาะในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น หากคนไข้หยุดการรักษากลางคัน ก็เปรียบเสมือนกับการรับประทานยาที่ไม่ครบโดส ซึ่งอาจทำให้มีโอกาสกลับมาเป็นใหม่ หรือกลายเป็นอาการเรื้อรังได้

จากสถิติของทางคลินิกฯ คนไข้ที่ได้รับการรักษาจนหายขาด จะไม่กลับมาเป็นซ้ำที่ตำแหน่งเดิม ภายในระยะเวลา 6 เดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการปรับพฤติกรรมของคนไข้ด้วย

การออกกำลังกายทางกายภาพฯ ไม่ได้เหมือนกับการออกกำลังกายทั่วไป เพราะเราจะเน้นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อบริเวณที่มีปัญหา ​และออกแบบการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับ​สภาพร่างกายและปัญหาสุขภาพของแต่ละบุคคล ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่อ่อนแอ และป้องกันการบาดเจ็บซ้ำที่จุดเดิม 

นอกจากการรักษาแล้ว ยังเหมือนมีเทรนเนอร์ส่วนตัว ที่ช่วยออกแบบท่าออกกำลังกายเฉพาะบุคคลในการรักษาแต่ละครั้ง ให้เหมาะกับสภาพกล้ามเนื้อ ณ ขณะนั้น

โรคที่เกิดจากพันธุกรรม เช่น กระดูกสันหลังคดแต่กำเนิด หรือโรคประจำตัว เช่น เท้าชาจากเบาหวาน ที่ทำให้ปลายประสาทอักเสบ ฯลฯ

นัดหมาย

085-9966-353
ภาพบรรยากาศ นพ.คุณากร อัชชนียะสกุล มาเยี่ยมคลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขาอโศก
ภาพบรรยากาศภายนอก ประตูทางเข้า คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขาอโศก
ภาพบรรยากาศภายใน ที่พักรับรอง กว้างขวาง ไม่อึดอัด คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขาอโศก
ภาพบรรยากาศภายใน ห้องตรวจ รักษา มีความเป็นส่วนตัว กว้างขวาง ไม่อึดอัด คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขาอโศก
ภาพบรรยากาศภายใน บริเวณโซนออกกำลังกาย คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขาอโศก
ภาพบรรยากาศภายใน กว้างขวาง ไม่อึดอัด คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขาอโศก
ภาพบรรยากาศภายใน กว้างขวาง โปร่งสบาย ไม่อึดอัด คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขาอโศก
ภาพบรรยากาศภายนอก คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขาอโศก บริเวณประตูทางเข้า
ภาพบรรยากาศภายนอก คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขาอโศก บริเวณล็อบบี้
ภาพบรรยากาศภายในห้องรักษา คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขาอโศก
ภาพบรรยากาศภายนอก ตึกจัสมิน อโศก ที่ตั้งคลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขาอโศก

Business Hours

วันจันทร์-ศุกร์: 10.30 - 20.00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์: 9.30 - 18.30 น.

Location

อยู่ห้อง B-13 ชั้น B-1 (ข้างออฟฟิศเมท)
Jasmine City ซ.สุขุมวิท 23 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
https://goo.gl/maps/yc3JW

Parking

จอดรถฟรี 3 ชั่วโมง
ภาพบรรยากาศ นพ.คุณากร อัชชนียะสกุล มาเยี่ยมคลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขานนทบุรี
ภาพบรรยากาศภายนอก ป้ายหน้าร้าน คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขานนทบุรี
ภาพบรรยากาศภายนอก คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขานนทบุรี ทางลงรถไฟฟ้า สถานีบางรักใหญ่ ทางออก 2
ภาพบรรยากาศภายนอก ป้ายบิลบอร์ด คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขานนทบุรี
ภาพบรรยากาศภายนอก ป้ายหน้าร้าน ป้ายบิลบอร์ด คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขานนทบุรี
ภาพบรรยากาศภายใน บริเวณที่รับรอง คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขานนทบุรี
ภาพบรรยากาศภายใน บริเวณโซนออกกำลังกาย และฝึกผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขานนทบุรี
ภาพบรรยากาศภายใน บริเวณโซนฝึกผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขานนทบุรี
ภาพบรรยากาศภายใน บริเวณโซนออกกำลังกาย คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขานนทบุรี
โลโก้และภาพบรรยากาศภายนอก คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขานนทบุรี
ภาพบรรยากาศภายนอก คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขานนทบุรี

Business Hours

วันจันทร์-ศุกร์: 9.30 - 20.00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์: 9.30 - 18.30 น.

Location

อยู่ติด MRT บางรักใหญ่ ทางออก 2
23/10 หมู่ 3, บางรักใหญ่, บางบัวทอง, นนทบุรี 11110
https://goo.gl/maps/wTdR4

Parking

มีที่จอดรถ 4-5 คัน
ที่จอดรถ เลี้ยวเข้าซอย อยู่หัวมุม